เลห์ ลาดักห์ เทือกเขาหิมาลัย ธิเบตน้อยแห่งอินเดีย
พร้อมที่จะพาตัวเองไปสูดลมหายใจ จากจุดที่สูงกว่าใคร…ในโลกใบนี้รึยัง งั้นตามมากันเลย *เมืองเลห์ ที่ได้รับขนานนามว่า ธิเบตน้อยแห่งอินเดีย เสน่ห์ของเมืองนี้ คือความเรียบง่าย สงบ อากาศดี ซึ่งแตกต่างจากภาพของอินเดียที่เราคุ้นเคย
เตรียมตัวออกเดินทางจาก กรุงเทพ สู่ เมืองเลห์ ในช่วงค่ำ-ดึกโดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเดลลี 6 -7 ชั่วโมงโดยประมาณ (ตามเที่ยวบินที่เลือกไว้)
เดินทาง(ตามเที่ยวบินที่เลือกไว้) ไปยังเลห์ เมืองหลวงของลาดักห์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 11,800 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล เมื่อถึงสนามบิน Kushok Bakula Airport จะมีเจ้าหน้าที่มารับที่สนามบิน ไปยังที่พัก หรือโรงแรมที่ได้เลือกไว้ จากนั้นพักผ่อนเพื่อให้ของร่างกายได้ปรับตัวเข้ากับบรรยากาศที่สูงจากนั้นรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม และจากนั้นในช่วงเย็น เดินเที่ยวชมพระราชวังเลห์ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 มีทั้งหมด 9 ชั้น ในอดีตเป็นพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดักห์
และเยี่ยมชม เจดีย์ชานติ เป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ โดยชาวญี่ปุ่นเป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อประกาศพระศาสนาและแสดงถึงสันติภาพแห่งโลก รอบๆเจดีย์สามารถมองเห็นหิวทัศน์ของเมืองเลห์ได้อย่างรอบด้าน
นำท่านสู่ ตลาดเลห์ ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่น มีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกชม และนำท่านเข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารเย็น
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่หมู่บ้าน ลามายูรู ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงาม Sham valley และเยี่ยมชม วัด Likir (วัดลิกีร์) เป็นวัดที่เก่าแก่ ศาสนาพุทธ ใน Ladakh วัดนี้มีพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย์ขนาดใหญ่
จากนั้นนำท่านเข้าชม วัดอัลชิ (Alchi Monastery) เป็นวัดในพุทธศาสนาแบบทิเบต วัดเก่าแก่ขนาดไม่ใหญ่ อยู่ในหมู่บ้านอัลชิ หมู่บ้านที่สวยงามเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองเลห์ สร้างราวปี ค.ศ. 958 - 1055 โดยท่านกูรู Rinchen Zangpo ภายในวัด มีสถูป พระพุทธรูปองค์ใหญ่ งานศิลปะไม้แกะ และจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังหลงเหลืออยู่
ระหว่างทางที่จะไปแม่น้ำสองสี จะต้องผ่านหุบเขาแม่เหล็กนี้ก่อนและก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปสุดๆ แมกเนติก ฮิลล์ (Magnetic Hill)เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องแวะถ้ามาเที่ยวเลห์ เราสามารถลงไปถ่ายรูปได้ และจะได้แบ๊คกราวน์เป็นถนนที่ยาวสุดลูกหูลูกตา คือสวยงามมาก
ถึงจุด Zanskar & Indus Rivers เป็นเส้นทางผ่านจุดที่ แม่น้ำสินธุ (Indus) ที่มีสีเขียว ตัดกับ แม่น้ำซานสการ์ ที่มีสีน้ำตาล บรรจบของแม่น้ำสองสายสองสีไหลมารวมกัน ณ จุดๆ นี้ คือ Sangam Viewpoint หากมาถูกช่วงถูกเวลาก็จะเจอแม่น้ำ 2 สาย ไหลมารวมกันเป็น 2 สี อย่างที่เห็น หากมาช่วงหิมะกำลังละลายก็จะเจอแม่น้ำเป็นสีโครน หรือถ้ามาช่วงฤดูหนาวก็จะเจอแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง และรับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านสู่ วัดลามายูรุ เป็นวัดที่เก่าแก่มากที่สุดและเป็นวัดที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาตั้งอยู่ที่เมืองเลห์ เนื่องจากวัดมีความสูงมาก ทำให้ผู้มาเยือนที่นี่จึงสามารถมองเห็นวิวแบบพาโนราม่าที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาได้รอบพื้นที่ อีกทั้งยังสามารถมเองเห็นวิวทะเลสาบในมุมที่ระดับสูงๆได้เลย หลังจากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก และรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม ที่เลห์
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วออกเดินทางสู่ ทะเลสาบปันกอง (Pangong Lake) ระหว่างทางไปนั้นเราจะต้องผ่าน Changla Pass ซึ่งเป็นถนนที่สูงที่สุดอันดับ 3 ในโลก (ความสูงจากระดับน้ำทะเล 17,350 ฟุต) เป็นทางผ่านที่ใช้เดินทางไปมาระหว่างเมืองเลห์ลาดักกับทะเลสาบปันกอง
และรับประทานอาหารกลางวัน ที่ บริเวณทะเลสาปปันกอง
ซึ่ง ทะเลสาบปันกอง (Pangong Lake) นั้นเป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มในเทือกเขาหิมาลัย และตั้งอยู่ที่สูงที่สุดในโลก 14,500 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล และมีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 140 กม. มีขนาดกว้าง 3-5 กม. ซึ่งมี ขนาดมากกว่าที่อยู่ในเขตแดนทิเบต ระยะทาง 135 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชม. จากเลห์ เที่ยวชมเพลินเพลิน กับทัศนียภาพ อันสวยงามของทะเลสาบที่สูงตระหง่าน ล้อมรอบด้วยภูเขาสีเทาและสีน้ำตาล นับคลื่นที่ซัดชายฝั่งของทะเลสาบ ซึ่งทะเลสาบนี้จะ เปลี่ยนสี และตื่นตาตื่นใจไปกับเฉดสีฟ้าที่แตกต่างกันตั้งแต่สีฟ้า ไปจนถึงสีน้ำเงินกรมท่า หลังจากนั้นเราเดินทางกลับมาสู่ที่พัก รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่เลห์
ช่วงเช้า (ตามเที่ยวบินที่เลือกไว้) เดินทางไปยังสนามบิน Kushok Bakula Airport เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
รายละเอียดราคารวม
รายละเอียดราคาไม่รวม
เงื่อนไขการจองแพคเก็จและสำรองที่นั่ง
เงื่อนไขการเดินทาง
36/68 หมู่บ้านอาร์เค บิซ เซ็นเตอร์ ถนนมอเตอร์เวย์ แขวง คลองสองต้นนุ่น เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520