เส้นทางยอดฮิต ทะเลสาปปันกอง (Pangong Lake) ,นูบร้าวัลเล่ย์( Nubra Valley) ,วัดธิกเซ่ ,พระราชวังเลห์
เตรียมตัวออกเดินทางจาก กรุงเทพ สู่ เมืองเลห์ ในช่วงค่ำ-ดึก โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเดลลี 6 -7 ชั่วโมงโดยประมาณ
เดินทาง(ตามเที่ยวบินที่เลือกไว้)ไปยังเลห์ เมืองหลวงของลาดักห์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 11,800 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
เมื่อถึงสนามบิน Kushok Bakula Airport (ประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลา 20 นาที) จะมีเจ้าหน้าที่มารับที่สนามบิน ไปยังที่พัก หรือโรงแรมที่ได้เลือกไว้ จากนั้นพักผ่อน เพื่อให้ของร่างกายได้ปรับตัวเข้ากับบรรยากาศที่สูง
จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน แล้วในช่วงเย็น เดินเที่ยวชม พระราชวังเลห์ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากจัตุรัสกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 มีทั้งหมด 9 ชั้น ในอดีตเป็นพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์แห่งลาดักห์
และเยี่ยมชม เจดีย์ชานติ เป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ โดยชาวญี่ปุ่นเป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อประกาศพระศาสนาและแสดงถึงสันติภาพแห่งโลก รอบๆเจดีย์สามารถมองเห็นหิวทัศน์ของเมืองเลห์ได้อย่างรอบด้าน
นำท่านสู่ ตลาดเลห์ ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่น มีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกชม และนำท่านเข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร )หลังจากนั้นออกเดินทางสู่ นูบร้า วัลเล่ย์ (Nubra Valley) ระหว่างทางที่จะไปถึง เราจะแวะที่ คาร์ดุง ลา พาส (Khardung La Pass) ถนนที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 5,602m เหนือระดับน้ำทะเล สูงเวอร์วังจนทำให้ที่นี่มีน้ำแข็งปกคลุมตลอด เรียกได้ว่าถ้าใครได้ผ่านถนนเส้นนี้ คือต้องแวะถ่ายรูป มีจุดชมวิวสวยๆ พร้อมมีร้านกาแฟ เล็กๆ
หลังจากนั้นเราเดินทางต่อไปยังนูบร้าวัลเลห์ และรับประทานอาหารกลางวัน
นูบร้า วัลเล่ย์ (Nubra Valley) หุบเขาแห่งดอกไม้ แหล่งปลูก Apricot และผลไม้ของลาดักห์ อยู่ห่างจากเลห์ไปทางเหนือประมาณ 125 km วิวของทีนี่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาคาราโครัม ซึ่งเทือกเขานี้ เป็นเขตแดนตามธรรมชาติกั้นอินเดีย กับปากีสถาน และยังเป็นที่เที่ยวที่สุดฮิตที่คนชอบไปขี่อูฐ สนุกสนานเพลิดเพลินที่เนินทรายระหว่างเดสกิตและหมู่บ้านฮันเดอร์ (ซึ่งอูฐที่นี่จะเป็น หนอกคู่ซึ่งพบได้เฉพาะในลาดัคห์และมองโกเลีย) จากนั้นรับประทานอาหารเย็น ที่แคมป์ / ที่พัก
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม/ที่พัก ออกเดินทางสู่ ทะเลสาปปันกอง (ใช้เวลา 6-7 ชั่วโมงประมาณ 150 กิโลเมตร) ระหว่างทางเราจะแวะชมอีกหนึ่งจุดที่สำคัญคือ แม่น้ำไชออร์ค (Shyok River) มีความหมายว่า “แม่น้ำแห่งความตาย” แม้จะมีชื่อที่ดูน่ากลัวแต่วิวทิวทัศน์และสายน้ำสีฟ้าสะอาดแห่งนี้มีความงดงามตรงกันข้ามกับความหมายของชื่อแม่น้ำเลย
ถึงทะเลสาบปันกอง รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นเข้าเข้าแคมป์ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย และตื่นตาตื่นใจไปกับ ทะเลสาปปันกอง ที่เปลี่ยนสีที่แตกต่างกันตั้งแต่สีฟ้า ไปจนถึงสีน้ำเงินกรมท่า และชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบอย่างสวยงาม ทะเลสาบนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มในเทือกเขาหิมาลัย และตั้งอยู่ที่สูงที่สุดในโลก 14,500 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล และมีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 140 กม. มีขนาดกว้าง 3-5 กม. ซึ่งมี ขนาดมากกว่าที่อยู่ในเขตแดนทิเบต ระยะทาง 135 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชม. จากนั้นกลับสู่แคมป์พัก บริเวณริมทะเลสาบ และรับประทานอาหารเย็น
ในช่วงเวลาอันเช้าตรู่ รับชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบปันกอง อันแสนสวยงาม
จากนั้นรับประทานอาหารเช้าที่แคมป์ที่พัก ได้เวลาอันควร เดินทางกลับมาที่ เลห์ ระหว่างทางไปเยี่ยมชม วัดติกเซ่ย์ (Thiksey Monastery) ตั้งอยู่บนยอดเขา ในหมู่บ้านติกเซ่ย์ สร้างกลางศตวรรษที่ 15 เป็นวัดในนิกายลามะหมวกเหลือง หรือ นิกายเกลุกปะ
และจากนั้นเยี่ยมชม Shey Palace เป็นอดีตพระราชวังที่ผ่านร้อน ฝน หนาว มากว่า 500 ปี ด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปทองแดงที่สูงใหญ่ขนาดตึกสามชั้น ความพีคอยู่ที่วิวด้านหน้า ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีแม้ในหน้าหนาว และบ่อน้ำ ที่ดูไป ดูมา เหมือนนิวซีแลนต์แดนภารตะไม่มีผิด ถ่ายไปก็กรี๊ดในใจไป
เข้าสู่ที่พัก และรับแระทานอาหารที่โรงแรม
ช่วงเช้า เดินทางไปยังสนามบิน Kushok Bakula Airport เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
รายละเอียดราคารวม
รายละเอียดราคาไม่รวม
เงื่อนไขการจองแพคเก็จและสำรองที่นั่ง
เงื่อนไขการเดินทาง
36/68 หมู่บ้านอาร์เค บิซ เซ็นเตอร์ ถนนมอเตอร์เวย์ แขวง คลองสองต้นนุ่น เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520